vetville preloading

รู้ทันโรคสัตว์เลี้ยง | Pet Health & Illness

รู้ทันโรคสัตว์เลี้ยง

สะบ้าเคลื่อนคืออะไร เราจะรู้ได้อย่างไรเมื่อสุนัขมีภาวะสะบ้าเคลื่อน รักษาได้อย่างไร?

โรคสะบ้าเคลื่อนเป็นโรคที่เจ้าของสุนัขพันธุ์เล็กหลายท่านคุ้นหูดีกันอยู่แล้ว และเราจะสังเกตได้อย่างไรว่าสุนัขของเรามีภาวะสะบ้าเคลื่อนแล้ว เราควรทำอย่างไรเมื่อสงสัยว่าสุนัขมีภาวะสะบ้าเคลื่อน แล้วภาวะนี้สามารถรักษาให้หายได้หรือไม่ วันนี้เรามาทำความรู้จักภาวะสะบ้าเคลื่อนไปด้วยกัน ลูกสะบ้า หรือ กระดูกสะบ้า (Pattela) เป็นกระดูกประเภทเซซามอยด์ (Sesamoid bone) ที่มีที่มาจากคำว่า sesamum ในภาษาอาหรับ ที่แปลว่าเม็ดงา เป็นกระดูกที่มีลักษณะกลมรี แบน ฝังอยู่ในเส้นเอ็นบริเวณหัวเข่าของสุนัข ซึ่งกระดูกสะบ้าเป็นกระดูกเซซามอยด์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในร่างกาย แนวของเส้นเอ็นสะบ้าเกิดจากกลุ่มเส้นเอ็นของกล้ามเนื้อหน้าตักรวมกัน พาดผ่านบริเวณร่องสะบ้า และไปสิ้นสุดที่บริเวณกระดูกหน้าแข้ง มีหน้าที่ช่วยทำให้การยืดงอของข้อเข่าสามารถทำงานได้โดยปกติ ภาวะสะบ้าเคลื่อน (Patellar luxation) คือ ภาวะที่กระดูกสะบ้าเคลื่อนหลุดออกจากร่องสะบ้าบริเวณข้อเข่า ซึ่งเป็นความผิดปกติของระบบกระดูกและข้อที่ส่งผลให้ การยืดงอของข้อเข่าเกิดความผิดปกติ เนื่องจากแนวเส้นเอ็นสะบ้ามีจุดยึดเกาะบริเวณกล้ามเนื้อและไปสิ้นสุดที่บริเวณกระดูกหน้าแข้ง เมื่อสะบ้าหลุด จึงทำให้เกิดการดึงรั้งของกล้ามเนื้อ เกิดแรงกระทำภายในข้อเข่า และมีการดึงกระดูกหน้าแข้งซึ่งส่งผลให้ผิดรูปได้ ซึ่งหากเป็นในสุนัขอายุน้อยอาจส่งผลต่อการเจริญเติบโตของขาทำให้ขาเกิดการผิดรูปได้ และในระยะยาวหากปล่อยภาวะสะบ้าเคลื่อนไว้โดยไม่ทำการรักษาอาจส่งผลให้เกิด โรคกระดูกและข้ออื่นๆตามมาได้ ซึ่งสาเหตุของภาวะสะบ้าเคลื่อนส่วนมากมักเกิดจากกรรมพันธุ์ทำให้สุนัขสายพันธุ์เล็กมักจะมีภาวะนี้แต่กำเนิด นอกจากนี้การเกิดอุบัติเหตุ อาทิ ตกจากที่สูง รถชน โดนกระทบกระเทือนรุนแรงก็อาจจะเป็นสาเหตุของภาวะสะบ้าเคลื่อนได้ ภาวะสะบ้าเคลื่อนสามารถแบ่งออกได้ 3 รูปแบบตามทิศทางที่สะบ้าเคลื่อนออก ได้แก่ เคลื่อนเข้าด้านใน (Medial patella luxation) เคลื่อนออกด้านนอก (Lateral […]
รู้ทันโรคสัตว์เลี้ยง

เห็บ-หมัด วายร้ายของสัตว์เลี้ยง

เจ้าของหลาย ๆท่านอาจจะสงสัยว่า น้องหมาหรือน้องแมวของเราไม่เห็นมีเห็บหมัดเลย ทำไมต้องกินยาด้วย ถ้าท่านมีคำถามเหล่านี้แสดงว่า คุณเจ้าของทั้งหลายยังไม่รู้จักความอันตรายของเจ้าพวกนี้ดี เห็บและหมัด เป็นพาหะที่สามารถนำเชื้อโรคต่างๆมาสู่สัตว์เลี้ยงของท่านได้ส่วนใหญ่แล้วมักจะก่อให้เกิดโรคที่อาจจะได้ยินกันบ่อยๆ หรือ โรคพยาธิเม็ดเลือดนั้นเอง ซึ่งจะว่าอันตรายก็อันตราย แต่ถ้าเจอไว รักษาได้ทันก็อาจจะเป็นโรคที่ไม่รุนแรงมาก แต่สุดท้ายแล้ว คงไม่อยากมีใครที่อยากให้ลูกของเราป่วย ดังนั้นป้องกันมักดีกว่าแก้เสมอค่ะ ซึ่งอาการที่เรามักจะเห็นคืออาจจะพบว่ามีอาการซึมลง ไม่ค่อยอยากกินอาหาร หรือบางครั้งอาจจะพบว่า ทำไมน้องหมา น้องแมวดูเหงือกหรือจมูกมีสีที่ซีดไป ซึ่งอาจเกิดจากภาวะโลหิตจางที่มาจากพวกปรสิตเหล่านี้ที่ดูดเลือดลูกๆของท่านนั้นเอง หรือในบางตัว เจ้าของบางท่านอาจจะเคยพบว่าเจออาการขนร่วงบริเวณข้างตัว มีอาการคัน หรือ แดงอักเสบบริเวณกลางหลัง บางครั้งก็เผลอคิดไปว่าอาจจะเป็นภูมิแพ้อาหารที่ทำให้ขนร่วงรึป่าว แต่จริงๆแล้วอาจจะเกิดอาการแพ้น้ำลายหมัด (flea bite allergy) นั้นเอง สุดท้ายแล้ว เห็บหมัด เป็นปรสิตภายนอกที่ก่อให้เกิดโรคได้มากมายและอันตรายมากกว่าที่เราคิด ดังนั้นหมั่นดูแลสุขภาพสัตว์เลี้ยงของคุณ เด็กๆจะได้อยู่กับคุณไปนานๆ หรือจะให้โอกาสทางโรงพยาบาลของเราดูแลสุขภาพของลูกๆของท่าน ทางเราก็ยินดีเป็นอย่างยิ่งค่ะ
รู้ทันโรคสัตว์เลี้ยง

ท้องเสียไม่หายทำอย่างไรดี

อาการท้องเสียในน้องหมาและแมวคือการที่อุจจาระมีลักษณะเปลี่ยนไป อาจจะนิ่มลงคล้ายยาสีฟันหรือเป็นน้ำ มีมูกขาวหรือมูกเลือดปน สามารถพบได้ในสุนัขทุกเพศทุกวัย อาการท้องเสียแบ่งเป็น 2 ประเภท คืออาการท้องเสียเฉียบพลัน และ อาการท้องเสียเรื้อรัง (มีอาการมากกว่า 2 อาทิตย์) ซึ่งอาการท้องเสียทั้งสองประเภทมีทั้งอาการรุนแรงและไม่รุนแรง สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการท้องเสียมีได้หลายสาเหตุ เช่น การติดเชื้อต่างๆที่ระบบทางเดินอาหาร เช่นแบคทีเรีย ไวรัส บิด เชื้อรา หรือพยาธิต่างๆ , การเปลี่ยนอาหาร , การกินของสกปรกหรือสิ่งแปลกปลอม หรือแม้กระทั่งความผิดปกติจากระบบอื่นๆที่ส่งผลให้เกิดอาการท้องเสียได้เช่น โรคตับ โรคไต เป็นต้น ทั้งนี้เจ้าของจำเป็นต้องสังเกตุอาการอย่างใกล้ชิดและควรปรึกษาสัตวแพทย์ อาการถ่ายเหลวในน้องหมาและแมวนั้นในบางครั้งอาจหายได้เองเป็นปกติในระยะเวลา 1-2 วัน แต่อาการถ่ายเหลวแบบไหนที่ไม่ปกติจนต้องพาน้องหมาและแมวไปหาคุณหมอนั้น วันนี้ทางโรงพยาบาลสัตว์เวทวิลล์มีข้อมูลเบื้องต้นมาแนะนำให้คุณเจ้าของสังเกตอาการต่างๆเหล่านี้กันครับ แต่ถ้าหากมีอาการท้องเสีย ถ่ายเหลวนานกว่า 2 วัน และมีอาการดังต่อไปนี้ร่วมด้วย ให้รีบนำไปพบสัตวแพทย์โดยเร็วที่สุด ถ่ายเป็นสีที่ผิดปกติ เช่นแดงหรือดำ มีมูกขาวหรือมูกเลือดปน ถ่ายบ่อยกว่าปกติและปริมาณในอุจจาระเยอะผิดปกติ มีอาการอาเจียน เบื่ออาหาร ซึม และอ่อนเพลียร่วมด้วย สังเกตเห็นว่ากินสิ่งแปลกปลอมหรือสารพิษ ถ้าเป็นน้องหมาและแมวอายุน้อย (<1ปี) หากไม่ดีขึ้นภายใน 12 […]