การดูแลสัตว์เลี้ยง ฉีดวัคซีน วัคซีนฉีดก่อน ป้องกันก่อน วัคซีนฉีดก่อน ป้องกันก่อน วัคซีนฉีดก่อน ป้องกันก่อน💉 การฉีดวัคซีน คือ การสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายเพื่อป้องกันการติดต่อของโรคติดต่อร้ายแรง ซึ่งมีความสำคัญกับสัตว์ในทุกช่วงวัย การฉีดวัคซีนนั้นช่วยลดโอกาสในการติดโรคและลดความรุนแรงของโรคที่จะมีผลต่อสัตว์ป่วยได้ สัตว์เลี้ยงควรได้รับการฉีดวัคซีนตามคำแนะนำของสัตวแพทย์ โดยเฉพาะในประเทศไทยที่เป็นพื้นที่การระบาดของโรคติดเชื้อหลายชนิด ดังนั้นโปรแกรมวัคซีนจึงเป็นส่วนสำคัญที่เราจะป้องกันไม่ให้สัตว์เลี้ยงที่เรารักต้องมาเจ็บป่วยด้วยโรคที่สามารถป้องกันได้ คำแนะนำการเตรียมความพร้อมก่อนการทำวัคซีนในสุนัขและแมว สุนัขที่จะได้รับวัคซีนควรมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ไม่มีความผิดปกติอย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนวันที่มีนัดทำวัคซีน ไม่จำเป็นต้องอดน้ำ-อดอาหารก่อนการทำวัคซีน และหากเจ้าของมีแผนที่จะอาบน้ำควรพาน้องสุนัขหรือแมวอาบน้ำให้เรียบร้อยก่อนการทำวัคซีน เพราะภายหลังการทำวัคซีนต้องงดอาบน้ำอย่างน้อย 7 วัน โปรแกรมวัคซีนสำหรับสุนัขและแมว โปรแกรมวัคซีนควรเริ่มเมื่อลูกสุนัขหรือแมวอายุ 8 สัปดาห์ หรือ 2 เดือนขึ้นไป ก่อนการฉีดวัคซีน ลูกสัตว์ควรมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ไม่มีความเจ็บป่วยในช่วงที่จะเริ่มทำการฉีดวัคซีน โดยหลังจากสัตว์เลี้ยงได้รับวัคซีนตามโปรแกรมวัคซีนแล้ว สุนัขต้องได้รับวัคซีนกระตุ้นประจำปีต่อเนื่องปีละ 1 ครั้ง โปรแกรมวัคซีนสำหรับสุนัข อายุ โปรแกรมวัคซีน 8 สัปดาห์ วัคซีนรวม 5 โรค (ครั้งที่ 1) 12 สัปดาห์ วัคซีนรวม 5 โรค (ครั้งที่ 2) 14 สัปดาห์ วัคซีนพิษสุนัขบ้า (ครั้งที่ 1) 16 สัปดาห์ วัคซีนรวม 5 โรค (ครั้งที่ 3) 18 สัปดาห์ วัคซีนพิษสุนัขบ้า (ครั้งที่ 2) 24 สัปดาห์ วัคซีนรวม 5 โรค (ครั้งที่ 4) วัคซีนรวม 5 โรคหรือวัคซีนรวมสุนัข ป้องกัน 5 โรคติดเชื้อที่สำคัญที่มักจะก่อความรุนแรงในลูกสุนัข ได้แก่ โรคไข้หัดสุนัข ( Canine Distemper ) โรคลำไส้อักเสบในสุนัข ( Canine Parvovirus ) โรคเลปโตสไปโรซีสหรือโรคฉี่หนู ( Leptospirosis ) โรคตับอักเสบในสุนัข ( Infectious Canine Hepatitis, Canine Adenovirus ) โรคหลอดลมอักเสบในสุนัข ( Canine Infectious Tracheobronchitis, Kennel cough ) วัคซีนพิษสุนัขบ้า เป็นวัคซีนที่ควรทำ เพราะถ้าสัตว์ติดเชื้อจะไม่มีทางรักษาหายได้ ดังนั้นการฉีดวัคซีนจึงสำคัญเป็นอย่างมาก โดยหลังจากสัตว์เลี้ยงได้รับวัคซีนตามโปรแกรมวัคซีนแล้ว แมวต้องได้รับวัคซีนกระตุ้นประจำปีต่อเนื่องปีละ 1 ครั้ง โปรแกรมวัคซีนสำหรับแมว อายุ โปรแกรมวัคซีน 8 สัปดาห์ วัคซีนไข้หัด-หวัดแมว (ครั้งที่ 1) 12 สัปดาห์ วัคซีนไข้หัด-หวัดแมว (ครั้งที่ 2) วัคซีนลิวคีเมียแมว (วัคซีนทางเลือก) (ครั้งที่ 1) 14 สัปดาห์ วัคซีนพิษสุนัขบ้า (ครั้งที่ 1) 16 สัปดาห์ วัคซีนไข้หัด-หวัดแมว (ครั้งที่ 3) วัคซีนลิวคีเมียแมว (วัคซีนทางเลือก) (ครั้งที่ 2) 18 สัปดาห์ วัคซีนพิษสุนัขบ้า (ครั้งที่ 2) 24 สัปดาห์ วัคซีนไข้หัด-หวัดแมว (ครั้งที่ 4) วัคซีนไข้หัด-หวัดแมว เป็นวัคซีนที่ป้องกันแมวจากจากเชื้อไวรัส 3 ชนิด ได้แก่ FPV, FHV-1, FCV โรคไข้หัดแมว ( Feline parvovirus (FPV), Feline Panleukopenia, Feline Distemper ) โรคหวัดแมวหรือโรคระบบทางเดินหายใจส่วนต้นและช่องปากและลิ้นอักเสบในแมว ( Feline Virus Rhinotracheitis (FVR) หรือ Feline Herpesvirus (FHV-1) และ Feline Calicivirus (FCV) ) วัคซีนลิวคีเมีย เป็นวัคซีนทางเลือกที่ป้องกันแมวจากจากเชื้อไวรัส FeLV (Feline leukemia virus) แต่ประเทศไทยพบการระบาดปัจจุบันจึงจัดเป็นหนึ่งในวัคซีนหลัก ก่อนการทำวัคซีนจำเป็นต้องมีการตรวจการติดเชื้อก่อนเริ่มทำวัคซีน หากผลเป็นลบจึงสามารถทำวัคซีนได้ ผลไม่พึงประสงค์ที่พบได้ภายหลังการฉีดวัคซีน ภายหลังการฉีดวัคซีนอาจจะมีผลไม่พึงประสงค์ได้ เช่น ซึม มีภาวะเบื่ออาหาร ทานอาหารได้น้อยลง มีไข้อ่อนๆ อ่อนเพลีย ไม่ร่าเริงเท่าเดิม มีอาการบวมอักเสบและเจ็บปวดบริเวณที่ถูกฉีดวัคซีน ซึ่งเป็นผลจากปฎิกิริยาการตอบสนองของร่างกายต่อวัคซีนที่ได้รับ ซึ่งอาการเหล่านี้จะหายเองได้ภายใน 1-2 วัน นอกจากนี้เจ้าของสัตว์เลี้ยงควรสังเกตอาการต่อเนื่อง เนื่องจากการตอบสนองต่อภูมิคุ้มกันแบบรุนแรงทำให้เกิดอาการแพ้วัคซีนได้ ซึ่งอาการเหล่านี้เป็นสิ่งที่ไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้ หากพบว่าสัตว์เลี้ยงมีอาการดังต่อไปนี้ หอบหายใจลำบาก รอบดวงตาและใบหน้าบวม มีตุ่มหรือผื่นขึ้นตามตัว มีภาวะอ่อนแรงหรือหมดสติ ไม่รู้สึกตัว อาเจียนและท้องเสียต่อเนื่อง ควรรีบพาสัตว์เลี้ยงไปพบสัตวแพทย์โดยเร็วที่สุด เพราะภาวะดังกล่าวอาจจะสามารถทำให้สัตว์เลี้ยงเกิดภาวะช็อกและเสียชีวิตได้ และหากสัตว์เลี้ยงของท่านเคยมีประวัติการแพ้วัคซีน ต้องแจ้งสัตวแพทย์ด้วยทุกครั้งก่อนการทำวัคซีนภายหลังทำวัคซีนควรอยู่สังเกตอาการภายใต้การดูแลของสัตวแพทย์อย่างน้อย 30 นาทีหลังทำวัคซีน และสังเกตอาการต่อที่บ้านอีก 24-48 ชั่วโมง ระยะเวลาของการเพิ่มภูมิคุ้มกันจะอยู่ที่ประมาณ 10 – 14 วันภายหลังการฉีด และอาจจะต้องฉีดกระตุ้นเข็มที่สองเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสร้างภูมิคุ้มกัน ดังนั้นหากยังฉีดวัคซีนไม่ครบตามกำหนดควรหลีกเลี่ยงพาสัตว์เลี้ยงของท่านไปในที่สาธารณะหรือสถานที่ที่มีสัตว์อื่นๆ ภายหลังฉีดวัคซีนครบตามโปรแกรมวัคซีนแล้ว หลังจากนั้นทุกปีจะต้องมีฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นต่อเนื่องเพื่อให้ระดับภูมิคุ้มกันอยู่ในระดับที่สามารถป้องกันโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ Ref : 2024 guidelines for the vaccination of dogs and cats – compiled by the Vaccination Guidelines Group (VGG) of the World Small Animal Veterinary Association (WSAVA) บทความโดย : น.สพ. ยศพัทธ์ ปานนิลวงศ์ อ่านต่อบทความอื่นๆ PostPost is now empty.