โภชนาการสัตว์เลี้ยง สัตว์เลี้ยงที่มีลักษณะอ้วนกลม เหมือนน่ารัก แต่ดีแล้วจริงหรือ? สัตว์เลี้ยงที่มีลักษณะอ้วนกลม เหมือนน่ารัก แต่ดีแล้วจริงหรือ? ปัญหาโรคอ้วนเป็นหนึ่งในปัญหาสุขภาพที่พบได้เยอะในปัจจุบัน มีรายงานต่อเนื่องมากว่า 20 ปีแล้วว่าสัตว์เลี้ยงกว่า 50% เป็นโรคอ้วน (Sheperd M. 2021, White GA.2011) และในช่วง 10 ปีที่ผ่านมารายงานแมวเป็นโรคอ้วนมีจำนวนมากขึ้นถึง 3% และสุนัขเป็นโรคอ้วนมากขึ้น 12% (Sheperd M. 2021) อาการที่มักพบ หายใจลำบาก หอบ เหนื่อยง่าย อ้าปากหายใจ พฤติกรรมเปลี่ยน เริ่มนอนมากขึ้น สนใจแต่อาหาร น้ำหนักขึ้นต่อเนื่อง ปัญหาที่มักตามมาเมื่ออ้วนเกินไป โรคอ้วนเหนี่ยวนำให้เกิดปัญหาตามมาได้อีกหลายประการ ทั้งโรคมะเร็งบางชนิด โรคเกี่ยวกับระบบต่อมไร้ท่อ (เช่น เบาหวานในแมว) โรคเกี่ยวกับระบบโครงร่าง กระดูกและข้อ โรคเกี่ยวกับระบบปัสสาวะ รวมไปถึงระบบทางเดินหายใจ โรคความดัน โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคตับและไต และอื่น ๆ อีกมากมาย รู้ได้อย่างไรว่าอ้วน ? American Veterinary Medical Association (AVMA) ได้ให้คำนิยามว่า สัตว์ที่มีน้ำหนักเกินเกณฑ์ 30% คือสัตว์ที่อ้วน มีงานวิจัยในปี 2023 ทำการทดสอบความเข้าใจของเจ้าของต่อโรคอ้วนในสุนัข พบว่าเจ้าของรับรู้ถึงปัญหาและผลกระทบที่ตามมาจากโรคอ้วน แต่มักประเมินความอ้วนของสุนัขตัวเองต่ำกว่าความเป็นจริง (Sanna G.2023) เพื่อให้สามารถประเมินสุนัขว่าอ้วนแล้วหรือยังเป็นตัวเลขระดับที่ชัดเจน แนะนำให้ใช้วิธีการดูจาก Body condition score (BCS) Body condition score (BCS) เป็นการประเมินความอ้วนที่มีระดับคะแนนเป็นช่วง 1-5 กับ 1-9 แต่ในปี 2019 หน่วยงาน Global Pet Obesity Statement แนะนำให้ประเมินคะแนนที่ 1-9 คะแนน เพื่อให้ได้ระดับการวัดที่แม่นยำมากขึ้น (The 2021 AAHA Nutrition and Weight Management Guidelines for Dogs and Cats) ผอม (1-2 คะแนน): พบว่าสามารถมองเห็นกระดูกซี่โครงและสันหลังได้อย่างชัดเจนในพันธุ์ขนสั้น และคลำไม่พบไขมัน มองจากด้านบนลักษณะเหมือนนาฬิกาทราย (เอวลึก) มองจากด้านข้างจะเห็นท้องยุบเข้าไปอย่างชัดเจน น้ำหนักต่ำกว่ามาตรฐาน (3-4 คะแนน): เริ่มมองเห็นกระดูกซี่โครงและสันหลังเล็กน้อยในสุนัขพันธุ์ขนสั้น เมื่อลูบกระดูกซี่โครงและสันหลังสามารถสัมผัสได้เนื่องจากมีไขมันน้อยถึงน้อยมาก สมส่วน (ideal 5 คะแนน): ไม่สามารถมองเห็นกระดูกซี่โครงและสันหลังได้ในพันธุ์ขนสั้น แต่จะสามารถลูบสัมผัสพบกระดูกซี่โครงและสันหลังได้โดยอาจพบไขมันเล็กน้อยคลุมอยู่ มองจากด้านบนจะเห็นว่าสัตว์เลี้ยงมีเอว มองจากด้านข้างจะเห็นท้องยุบๆเล็กน้อย น้ำหนักเกินมาตรฐาน (6-7 คะแนน): เริ่มคลำเจอซี่โครงและสันหลังได้ยากขึ้นเนื่องจากไขมันที่ปกคลุมมากขึ้น หลังเริ่มแบน เอวที่เคยมีเริ่มหาย พุงเริ่มห้อย อ้วน (8-9 คะแนน): ไขมันสะสมเยอะจนไม่สามารถคลำกระดูกซี่โครงหรือสันหลังได้ มีไขมันสะสมที่เอวและโคนหาง เมื่อมองจากด้านบนจะไม่เห็นเอว มองจากด้านข้างจะเห็นพุงห้อยลงมาชัดเจน การดูแลเมื่ออ้วน สุนัขที่อ้วนมักเกิดจากการที่ได้รับพลังงานต่อวันที่มากเกินไป หรือมีการใช้พลังงานที่น้อยเกินไป คำนวณพลังงาน(อาหาร)ที่ได้รับต่อวันให้เหมาะสมกับกิจกรรมที่ทำระหว่างวัน ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม โดยทั่วไปอาจเป็นการใส่สายจูงพาเดินสม่ำเสมอต่อเนื่องเพื่อเป็นการเผาผลาญ สลายไขมันที่สะสมอยู่ กรณีที่ทำทั้งสองข้อแล้วน้ำหนักยังไม่ลด แนะนำให้พบสัตวแพทย์เนื่องจากอาจมีปัญหาสุขภาพอื่นๆ ซ่อนอยู่ Reference Shepherd M. Canine obesity management. Vet Clin of North America: Small Anim Prac. Vol 51, Iss 3, May 2021, P653-667 https://www.sciencedirect.com/science/article/abs/pii/S0195561621000152?via%3Dihub White GA, et al. Canine obesity: is there difference between veteinarian and owner perception. BSAVA; Journal of Small Anim Prac. 2011.52,622-626. DOI: 10.1111/j.1748-5827.2011.01138.x Sanna G, et al. Dog Owners’ Perceptions of Canine Body Composition and Effect of Standardized Education for Dog Owners on Body Condition Assessment of Their Own Dogs. Vet. Sci. 2023, 10(7), 447 https://www.mdpi.com/2306-7381/10/7/447 บทความโดย : สพ.ญ. ณัฐณิชา พันธุ์สิน อ่านต่อบทความอื่นๆ โภชนาการสัตว์เลี้ยง สัตว์เลี้ยงกินยากทำอย่างไรดี